พลตรี ไพศาล หนูสังข์ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมผู้เกี่ยวข้อง ได้ตรวจติดตามผลการปฏิบัติงานและการปฏิบัติตามแผนเชิงรุก 46484 การควบคุมพื้นที่ป้องกันการก่อเหตุ จังหวัดนราธิวาส รวม 6 หน่วย ซึ่งขณะนี้มีการเปิดแผนเชิงรุก 3 แผน ได้แก่ (1) แผนยุทธการ 46241 ควบคุมพื้นที่รอบเขาตะเวน และหมู่บ้านเชิงเขา (2) แผนสกัดกั้นชายแดน และ (3) แผนพิทักษ์นรา 46484 การปฏิบัติเชิงรุกควบคุมพื้นที่ และเส้นทางการสับเปลี่ยนกำลัง โดยภาพรวมสถานการณ์ในพื้นที่ 10 อำเภอของจังหวัดนราธิวาส ยังคงเป็นเป้าหมายในการก่อเหตุของผู้ก่อเหตุรุนแรง อย่างต่อเนื่อง กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงได้พยายามสร้างสถานการณ์ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อยู่ตลอดเวลา โดยไม่คำนึงถึงความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยังคงปรากฏภาพข่าวความเคลื่อนไหวผู้ก่อเหตุรุนแรงระดับปฏิบัติการประกอบกับปัจจัยเร่งการก่อเหตุสร้างสถานการณ์ เป็นเดือนที่มีวันสำคัญเชิงสัญลักษณ์ อาทิ วันครบรอบสถาปนากลุ่มเบอร์ซาตู ที่กำลังจะถึงใน 31 สิงหาคม นี้ และเป็นช่วงการผลัดเปลี่ยนกำลังของหน่วย คาดว่า ผู้ก่อเหตุรุนแรง ยังคงพยายามก่อเหตุสร้างสถานการณ์ในพื้นที่ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นให้กับสมาชิกและลดความเชื่อถือของเจ้าหน้าที่ทหาร รูปแบบการก่อเหตุได้
ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้เน้นย้ำการปฏิบัติงานตามแผนจัดกำลังชุดปฏิบัติการจรยุทธ์ ลาดตระเวนแสดงกำลัง จำกัดเสรีกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เป็นต้น อีกทั้งเพิ่มความเข้มของกำลังที่ปฏิบัติหน้าที่ ณ จุดตรวจ/ด่านตรวจ ให้มากขึ้น โดยบูรณาการการปฏิบัติร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการร่วมอำเภอ เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ที่สำคัญให้หน่วยปฏิบัติตามสั่งการของผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ยึดมั่นการทำงานภายใต้ยุทธศาสตร์คนดี ไม่สร้างเงื่อนไข มีอุดมการณ์ที่แน่วแน่ รักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ขณะที่ในช่วงที่มีการสับเปลี่ยนกำลังของแต่ละหน่วยในแต่ละพื้นที่ต้องเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ การเคลื่อนย้าย การเข้าพื้นที่ต้องมีการวางแผนและเพิ่มมาตรการด้านการข่าวอย่างเข้มข้น ทุกขั้นตอนต้องคำนึงถึงความปลอดภัยเป็นสำคัญ สร้างความเชื่อมั่นแก่พี่น้องประชาชนในการทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ต่อไป
*******************************