วันศุกร์, 24 มกราคม 2568

?ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่ ไก่พื้นเมือง ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้​ พัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จชต. ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ?

?ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ส่งเสริมการเลี้ยงไก่ไข่ ไก่พื้นเมือง ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้​ พัฒนาคุณภาพชีวิตพี่น้องประชาชนในพื้นที่ จชต. ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ?

?เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2565 เวลา 1400 น. พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมด้วย พันเอกยุทธนา สายประเสริฐ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151 และคณะ เดินทางลงพื้นที่ เพื่อติดตามความคืบหน้าการเลี้ยงไก่ไข่  ตามโครงการส่งเสริมคุณภาพชีวิต เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ประจำปี พ.ศ. 2565 ในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส จำนวน 2 ชุมชน ได้ แก่ 1.ชุมชนบ้านยูโย ตำบลบางขุนทอง อำเภอตากใบ และ 2. ชุมชนบ้านเกาะนาหนู ตำบลไพรวัน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส โดยมี ร้อยตำรวจเอก วรภพ ส่งแสง รองผู้บังคับกองร้อย หน่วยเฉพาะกิจตำรวจนราธิวาสที่ 932 , ผู้ใหญ่บ้าน , ฝ่ายปกครอง ร่วมให้การต้อนรับ

▶️โดยศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้การสนับสนุนจัดหาพันธุ์ไก่ไข่ สายพันธุ์โร๊ดไอส์แลนด์เรด  พันธุ์ไก่พื้นเมือง สายพันธุ์ชัยอารีย์ พร้อมทั้งอุปกรณ์การเลี้ยงไก่ และอาหารไก่ ตามความต้องการของพี่น้องประชาชนในชุมชนที่ได้ทำการสำรวจ จำนวน 44 ชุมชน ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ตามแผนเสริมสร้างสันติสุข จังหวัดชายแดนภาคใต้ ประจำปี 2564 ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ซึ่งกำหนดชุมชนล่อแหลมในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ4 อำเภอของจังหวัดสงขลา จำนวน  258 ชุมชน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว เป็นกิจกรรมช่วยเหลือพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิด-19 และสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนไทยพุทธ และพี่น้องประชาชนไทยมุสลิม เป็นการลดต้นทุนในการประกอบอาชีพสามารถสร้างงาน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้สามารถเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม

▶️▶️ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ กล่าวว่า ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา“ และ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ของพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร มาเป็นแนวทางหลักในการแก้ปัญหาในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังมิให้เกิดการละทิ้งถิ่นฐานของประชาชน สร้างแรงจูงใจ เพื่อให้ประชาชนกลับมายังถิ่นฐานเดิม ส่งเสริมการประกอบอาชีพ ของชุมชนไทยพุทธ ชุมชนไทยมุสลิมให้สามารถประกอบอาชีพ มีรายได้เลี้ยงตนเอง และครอบครัวมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อการพึ่งพาตนเองได้ เป็นการสร้างพื้นที่สันติสุขที่ยั่งยืนด้วยพลังชุมชน ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ตลอดจนได้พบปะ ได้พบปะสร้างความสัมพันธ์กับพี่น้องในชุมชน พร้อมทั้งมอบความห่วงใย และมอบถุงยังชีพ  เพื่อเป็นการสร้างขวัญกำลังใจ และบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ต่อไป