วิถีชีวิตพหุวัฒนธรรมสร้างชุมชนเข้มแข็ง นำสังคมสู่สันติสุขที่ยั่งยืน
สังคมในจังหวัดชายแดนใต้ของบ้านเราที่ผ่านมา ทุกคนอยู่ร่วมกัน อย่างมีความสงบสุข เข้าใจกัน ดำเนินวิถีชีวิตร่วมกัน ช่วยเหลือเกื้อกูลกัน มีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมอย่างกลมกลืน เอกลักษณ์ที่สำคัญของบ้านเราคือ สังคมแบบพหุวัฒนธรรม
สังคมแบบพหุวัฒนธรรมคือ.การอยู่ร่วมกันของผู้คนท่ามกลางความหลากหลายอย่างกลมกลืน ซึ่งความหลากหลายที่ปรากฏในสังคมพหุวัฒนธรรม ได้แก่.เชื้อชาติหรือชาติพันธุ์ ศาสนา/ความเชื่อ ภาษา วิถีการดำเนินชีวิต ขนบธรรมเนียม วัฒนธรรม ประเพณี จารีต
ที่ผ่านมา และปัจจุบันพี่น้องไทยพุทธมักจะร่วมงานประเพณีต่างๆ ของชาวไทยมุสลิม เช่น กวนอาซูรอของพี่น้องไทยมุสลิม การแต่งกาย การจัดประเพณีงานแต่งงาน การร่วมบริจาคทำบุญ เพื่อพัฒนามัสยิดซึ่งเป็นศาสนสถานศูนย์รวมจิตใจของพี่น้องไทยมุสลิม พี่น้องไทยมุสลิมก็เข้าร่วมประเพณี ของชาวไทยพุทธ ร่วมแรงร่วมใจพัฒนาหมู่บ้าน พัฒนาวัดในพื้นที่ สำหรับในด้านอาหารการกินก็มีให้เลือกรับประทานอย่างหลากหลาย ทั้งอาหารไทย.อาหารจีน.อาหารมุสลิม.เช่น มะตะบะ.กือโป๊ะ.ไก่กอและก็เป็นอาหารที่นิยมของผู้คน จากความหลากหลายทางสังคม และวัฒนธรรมทำให้สามจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นพื้นที่ที่น่าสนใจสำหรับการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมของทั้งชาวไทย และชาวต่างประเทศ ถึงแม้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ความขัดแย้ง และความรุนแรงในพื้นที่อยู่บ้างก็ตาม
แม้ปัญหาที่เกิดจากความแตกต่างในสังคมเดียวกันจะมีอยู่ทั่วไป ไม่ใช่เพียงแต่ที่บ้านเรา แต่หากเราทุกคนมีระบบการจัดการที่มีคุณภาพ มีการเคารพ และยอมรับซึ่งความแตกต่าง มีความไว้ใจ และมีความปรารถนาดีต่อกัน สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยทำให้พี่น้องประชาชน
ที่บ้านเราอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ขอเพียงให้เราทุกคนอย่าได้หลงเชื่อ.หรือตกเป็นเหยื่อ.ของบุคคล กลุ่มบุคคล หรือองค์กรใดใดที่พยายามปลุกกระแสความเกลียดชัง แบ่งแยกภาษา.ศาสนา.เป็นอันขาด เพราะนั่นหมายถึงเราได้ตกเป็นเหยื่อของบรรดาผู้หวังผลประโยชน์ ที่มุ่งทำลายสังคมให้เกิดความแตกแยก