คุณธรรมในเดือนรอมฎอนอันประเสริฐ
แก่นแห่งเดือนรอมฎอน คือเดือนแห่งการค้นหาความสงบ เป็นเดือนแห่งความศักดิ์สิทธิ์ ของอิสลาม และในเดือนนี้เกือบร้อยละ ๒๐ ของประชากรทั่วโลก จะหยุดการกินและดื่มในช่วงเวลากลางวันเป็นเวลา ๓๐ วัน เพื่อปฏิบัติหน้าที่ทางศาสนา และพยายามเป็นมุสลิมที่ดีขึ้น อีกทั้งเป็นห้วงเวลา ที่สะท้อนถึงความจงรักภักดีต่ออัลลอฮฺ สะท้อนถึงความเสมอภาคของมุสลิม แสดงออกถึงความเมตตาที่มีต่อเพื่อนมนุษย์
หลายคนเรียกร้องให้ ผู้ที่หลงผิด คิดต่างจากรัฐ อันเกิดจากการสั่งการ บีบบังคับ หรือบิดเบือนจากชัยฏอน (ซาตาน) ในคราบมนุษย์ให้ทำชั่วต่อมนุษย์ด้วยกัน ได้หยุดการกระทำซึ่งขัดต่อบทบัญญัติของอัลลอฮ ได้กลับตัวกลับใจรีบเร่งออกจากป่าเขาที่หลบซ่อนกลับสู่ครอบครัว สู่ถิ่นฐานบ้านเกิด และให้เดือนแห่งความประเสริฐนี้เป็นชำระล้างสิ่งเลวร้ายที่ผ่านมา ให้เป็นของขวัญสำหรับผู้กลับตัวกลับใจที่ยำเกรงต่ออัลลอฮฺ
อิสลามเชื่อในหลักการเรื่อง “คุณธรรม” และคุณธรรมเท่านั้นที่จะปราบปรามความชั่วร้ายและปิดกั้นหนทางแทรกซึมของความชั่วได้สำเร็จ เพื่อดำรงไว้ซึ่งคุณธรรม ซึ่งเป็นคุณธรรมที่อยู่เหนือ การประพฤติตามอารมณ์ของมนุษย์ การฆ่าผู้อื่นโดยมิชอบ อิสลามเอาโทษหนักในเรื่องของการหลั่งเลือดและคร่าชีวิตผู้อื่นโดยมิชอบ โดยระบุไว้ในอัลกุรอาน ความว่า “ผู้ใดฆ่าชีวิตหนึ่งโดยมิชอบด้วยเหตุของการคร่าชีวิตอื่น (คือคนผู้นั้นไม่ใช่ฆาตกร) และไม่ใช่ผู้ก่อความเสียหายใดๆ บนแผ่นดิน นั่นเสมือนว่าเขาได้ฆ่าผู้คนทั้งหมดแล้ว และผู้ใดที่ให้ชีวิต (ผู้หนึ่งผู้ใด) นั่นเสมือนว่าเขาได้ไว้ชีวิตแก่ผู้คนทั้งหมดแล้ว” (อัลมาอีดะฮฺ:๕:๓๒) ข้อห้ามเรื่องการห้ามฆ่านักบวช เด็ก คนชราและผู้หญิง เนื่องจากบุคคลเหล่านี้ไม่มีเรี่ยวแรงพอที่จะทำการสู้รบได้ และไม่มีส่วนรู้เห็นในการรบแต่อย่างใด ข้อห้ามนี้ได้ถือเป็นหลักเกณฑ์ในการทำสงครามตามทัศนะ ของอิสลามที่ว่า เพียงเพื่อปราบปรามและป้องกันการรุกรานเท่านั้น ท่านนบีมูฮัมหมัด ศ็อลลัลลอฮุอะลัย ฮิวะซัลลัม จะรู้สึกขัดเคืองใจอย่างยิ่ง หากท่านทราบว่ามีเด็กต้องเสียชีวิตในการทำสงคราม (เชค มุฮัมมัด อบู ซะฮฺเราะฮฺ, ๒๕๔๙. น.๖๕)
“เดือนรอมฎอนนั้นเป็นเดือนที่อัลกุรอานถูกประทานลงมาในฐานะเป็นข้อแนะนำ สำหรับมนุษย์ และเป็นหลักฐานอันชัดเจนเกี่ยวกับข้อแนะนำนั้น และเกี่ยวกับสิ่งที่จำแนกระหว่างความจริง กับความเท็จ ดังนั้นผู้ใดในหมู่พวกเจ้าเข้าอยู่ในเดือนนั้นแล้ว ก็จงถือศีลอดในเดือนนั้นเถิด”
(บะเกาะเราะฮฺ ๑๘๕)
เราคนไทยทุกคน ทุกศาสนา ทุกสาขาอาชีพ ขออวยพรให้พี่น้องชาวไทยมุสลิมทุกท่านสามารถบำเพ็ญกุศลถือศีลอดในเดือนรอมฎอน ได้บรรลุผลสำเร็จตามเจตนารมณ์ทุกประการ และขอให้ผลของการบำเพ็ญตน ส่งเสริมให้ทุกคนประสบแต่ความสุข ความเจริญ และสัมฤทธิผลในสิ่งอันพึงปรารถนาโดยทั่วกัน